เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีโอกาสเข้าร่วมงานสัมมนา Asian Forum on Corporate Social Responsibility (AFCSR) ครั้งที่ 13 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิบปินส์ ภายใต้ธีม Building Resilient Communities เพื่อให้เข้าใจแนวคิดนี้มากขึ้นจึงได้ทำการค้นคว้าและพบว่า Resilience หรือในภาษาไทยแปลกันว่า ”ยืดหยุ่นปรับตัวได้” นั้นคือความสามารถในการปรับตัวและฟื้นตัวเมื่อเผชิญกับความกดดันยากลำบากหรือภาวะวิกฤต คุณสมบัตินี้ถ้าเป็นระดับปัจเจกบุคคลถือว่าเป็นคุณสมบัติที่สำคัญพอๆ กับ IQ หรือ EQ บุคคลระดับผู้นำของโลกไม่ว่าจะเป็นริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) เจ้าของสายการบินชื่อดังของโลก เวอร์จิ้น แอร์ไลน์ (Virgin Airlines) และเจ้าของธุรกิจมากกว่า 360 บริษัท ที่ใช้ชื่อการค้าว่า Virgin ตอนนี้มีคำนำหน้าเป็นเซอร์ริชาร์ด แบรนสัน ที่ต้องผ่านขวากหนามโดนเรียกคืนสัมปทานการบิน เสี่ยงกับการล้มละลาย แต่ด้วยสติและความมีอารมณ์ขัน ความคิดสร้างสรรค์และความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาก็ทำให้เขากลายเป็นตัวอย่างความสำเร็จของผู้ประกอบการที่ไม่เคยหยุดให้กับปัญหาใดๆ หรือหญิงเหล็กอย่างฮิลลารี่ คลินตัน (Hillary Clinton) ก็ได้รับการกล่าวขวัญในหนังสือที่ชื่อว่า Leadership Secretes of Hillary Clinton ว่าความลับสู่ความสำเร็จในการเป็นผู้นำและการนำไปสู่อำนาจ ในการก้าวข้ามอุปสรรคและฝั่งตรงกันข้าม เพราะเธอมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นปรับตัวได้ เธอจึงสามารถกลับมายืนบนเวทีการเมืองและมีผู้สนับสนุนให้เธอลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดีตลอดเวลา
ในเชิงสังคมและชุมชน
คุณสมบัติที่ยืดหยุ่นปรับตัวได้ (Resilience) ซึ่งกลายมาเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ชุมชนอยู่ดีมีสุขได้อย่างยั่งยืน
ด้วยว่าสังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สาธารณสุข
การเมือง สังคม สิ่งแวดล้อมและแม้กระทั่งภัยธรรมชาติ
ดังนั้นสังคมและชุมชนจึงอยู่บนความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเหล่านั้นตลอดเวลาและอาจรวดเร็วขึ้นกว่าในอดีตอันเนื่องจากพลังโลกาภิวัฒน์
ในวงของการสัมมนานี้จึงพูดกันถึงกลไกของ CSR ที่สามารถจะเป็นจุดเชื่อมธุรกิจ
ภาครัฐ ภาคประชาสังคม ในการช่วยสร้างชุมชน สังคม ที่สามารถรับแรงกระเทือนจากความเปลี่ยนแปลงแต่ยังมีความหวังจะต่อสู้อุปสรรค
และกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
หัวข้อหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานล้นหลามกระทั่งผู้จัดต้องเสริมที่นั่งกันเกือบล้นออกนอกห้อง
คือหัวข้อ “ตัวชี้วัดและการวัดผลความสามารถในการยืดหยุ่นและปรับตัวได้
(Resilience) ซึ่งนำเสนอโดยด็อกเตอร์คริสทีน
แก็บบี้ จากสถาบัน Torrons Resilience Institute แห่งเมือง Adelaide
ออสเตรเลีย กระบวนการสร้างความยืดหยุ่นและปรับตัวได้นี้ อาจารย์แก็บบี้ได้ชี้ว่าเป็นกระบวนการที่มีชีวิต
(Living Process) กล่าวคือต้องการมีประเมินอยู่อย่างสม่ำเสมอ
โดยตัวอย่างที่ยกมาในประเทศอออสเตรเลียนั้นได้มีการจัดคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้คนหลากหลายจากในชุมชนมาร่วมกันติดตามและตรวจสอบศักยภาพของการมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้
โดยทางสถาบัน Torrons Resilience Institute
ได้จัดทำเครื่องมือ Resilience Scorecard โดยเครื่องมือนี้จะมีประโยชน์ต่อพื้นที่ของชุมชนในการเตรียมพร้อมรับกับภัยพิบัติหรือสถานการณ์อ่อนไหวซึ่งอาจนำมาซึ่งเหตุรุนแรงต่างๆ
ได้ รวมไปถึงการสร้างแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อเข้าถึงทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นบุคคล
องค์กร องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชนนั้น ในการศึกษาของสถาบันนี้ หากชุมชนนั้นเป็นชุมชนที่ปรับตัวได้
มีเสถียรภาพและมีศักยภาพสู่การยืดหยุ่น ชุมชนจะมีความสามารถดังนี้คือ 1. สามารถบริหารจัดการระบบต่างๆ
ในชุมชนนั้นได้แม้เกิดเหตุวิกฤต (Crisis)
ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม แผ่นดินไหว เหตุประท้วงหรือเหตุอื่นๆ 2.
สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ทางกายภาพ
เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เพื่อตอบรับกับแรงกระทบที่เข้ามาได้3. สามารถพึ่งพาตนเองได้หากโดนตัดขาดจากความช่วยเหลือภายนอกโดยในหัวข้อ Scorecard
จะถูกแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อใหญ่ๆ คือ 1.
ความเชื่อมโยงในชุมชน (Connectedness) โดยวัดจากความเชื่อมโยง
การสื่อสาร และการสนับสนุนกันและกันของสมาชิกในชุมชน 2. ความเสี่ยงต่างๆและกลุ่มคนในชุมชนที่มีความเปราะบางและต้องการความช่วยเหลือ
(Risk/Vulnerability) โดยวัดจากการวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยงต่างๆ
ในพื้นที่
ลักษณะของกลุ่มคนในชุมชนทั้งแบบที่แข็งแรงอยู่แล้วหรือเป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือ
3. แผนและกระบวนการ (Process) ในหัวข้อนี้จะมีการวัดระดับการเตรียมพร้อมในแผนการและระบบต่างๆ
รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในแผนต่างๆ เพื่อฟื้นฟู หรือตอบรับกับเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบกับชุมชนทั้งในระดับครัวเรือนและระดับวงกว้าง
4. ทรัพยากร (Available
Resources) เป็นการวัดระดับความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภค ถนน น้ำ ไฟ
แหล่งอาหาร สาธารณสุข รวมไปถึงรายได้ สถานะทางเศรษฐกิจ สถานศึกษาและองค์ความรู้
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่า
การสร้างคุณสมบัติด้านการยืดหยุ่นและปรับตัวได้นั้นเป็นกระบวนการระยะยาว
และต้องการการมีส่วนร่วมจากชุมชน นับจากสมาชิกปัจเจก ระดับครอบครัว
ระดับกลุ่มและในภาพรวมทั้งหมด ที่ประเทศออสเตรเลียโดยสถาบัน Torrons
Resilience Institute จึงได้จัดทำคู่มือ Tool Kit เพื่อเป็นกรอบแนวทางให้กับชุมชนต่างๆได้นำไป
ปรับใช้และเน้นสิ่งที่สำคัญในการสร้าง Resilience คือคณะกรรมการของชุมชนที่จะต้องร่วมประชุมเพื่อประเมินและติดตามผลตามหัวข้อใน
Scorecard และจะต้องมาจากหลากหลายกลุ่มในชุมชน
เพื่อให้ครอบคลุมความคิดเห็นโดยรวม
ในวันนี้ที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
นี่อาจเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยสร้างความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืนให้กับ
ชุมชนสังคมที่ต้องโดนท้าทายจากสถานการณ์ความน่ากลัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรุนแรง
การเมือง โรคระบาด เศรษฐกิจทดถอย และวัฒนธรรมเสื่อมหายไปกับการพัฒนาสมัยใหม่