ผู้ประกอบการสร้างสรรค์
โดย
คุณวิชัย ลิมปิติกรานนท์
ผู้จัดการโครงการศึกษาวิจัยเชิงสังเคราะห์
ยุทธศาสตร์ธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด
ในมิติรูปแบบและกระบวนการดำเนินธุรกิจของธุรกิจสร้างสรรค์ที่ได้รับรางวัลไทยสร้างสรรค์ และผู้จัดการโปรแกรมพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจ
สภาพทางการเมืองที่รุนแรงทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)
ในปัจจุบันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
ตรงข้ามกับในปีนี้ที่อากาศบ้านเราค่อนข้างเย็นสบาย
จากสภาพการเมืองดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราไม่มากก็น้อย
เข้าใจว่าบางท่านเริ่มจะมีเวลาว่างมากขึ้น
ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะทบทวนรูปแบบธุรกิจ(Business Model) ของเราใหม่
ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
เสียเปรียบธุรกิจขนาดใหญ่ ในหลายๆประเด็นตั้งแต่ เงินทุน ชื่อเสียง ทรัพยากรมนุษย์
ฯลฯ มีเพียงข้อได้เปรียบบางประการ คือ ความคล่องตัวในการบริหารกิจการ และ
ความคิดเชิงสร้างสรรค์ เท่านั้น
ดังนั้นเพื่อที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจะสามารถสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขัน(Competitive
Advantage) ต้องนำความคิดเชิงสร้างสรรค์นั้นมาใช้ในการสร้างโมเดลธุรกิจ(Business
Model)
ตัวอย่างโมเดลธุรกิจในประเทศไทยที่คิดต่างสร้างธุรกิจ
คือ หนังสือพิมพ์ M2F หนังสือพิมพ์ขนาดแทบลอยด์
ในเครือบริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด ที่แจกฟรีทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์
ตามสถานีขนส่งมวลชน BTS, MRT และย่านธุรกิจกลางกรุง
โดยมียอดพิมพ์สูงถึงวันละ 400,000 ฉบับ หนังสือพิมพ์
M2F ใช้รูปแบบธุรกิจ FREE as a Business Model รูปแบบธุรกิจคือ
ลูกค้าจำนวนมากได้ประโยชน์จากการได้รับสินค้าหรือบริการฟรี (Free-of-charge
offer) โดยมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์นี้ ซึ่งพลิกวิธีคิดที่ผู้รับสินค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือบริการ
แต่สำหรับท่านที่เดินทางไปทั่วโลก ก็จะพบว่าโมเดลธุรกิจนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ มีหนังสือพิมพ์ที่แจกฟรีในต่างประเทศ
คือ Metro ใน Stockholm และกระจายไปเมืองต่างๆทั่วโลก
ซึ่งเป็นการท้าทายรูปแบบการทำธุรกิจแบบเดิม 3 ประการคือ 1)แจกหนังสือพิมพ์ฟรี
2)กระจายไปยังแหล่งที่มีผู้คนจำนวนมาก การคิดต่างเช่นนี้
เป็นการสร้างช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ของตนเอง
นอกจากนี้ยังกระจายไปสู่คนหมู่มากได้ด้วย 3)ลดต้นทุนในการพิมพ์และผลิตเนื้อหา
เพราะผู้บริโภคมีเวลาอ่านค่อนข้างน้อย
สำหรับโลกปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงมาก
(ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าฯก็จะพบว่าทุกคนก้มหน้ามองดูแต่ Smartphone) และผู้บริโภคต้องการสินค้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ถ้าเป็นชิ้นเดียวในโลกได้ก็ยิ่งดี สินค้าที่ผลิตในลักษณะ Mass production เริ่มเป็นสิ่งที่ล้าสมัย จากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เปลี่ยนไปทำให้ สถาปนิกรายหนึ่งได้ออกแบบธุรกิจ
โดยผลิตสินค้าตกแต่งบ้านสำหรับคนเมืองรุ่นใหม่ ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยด้านเทคโนโลยี
ความเป็นเอกลักษณ์ และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดจำหน่ายผ่าน www.kickstarter.com ซึ่งเป็นช่องทางการตลาดการระดมเงินทุนจากคนหมู่มากที่สนใจจะลงทุนในความคิดใหม่ๆเพื่อสนับสนุนให้กลายมาเป็นธุรกิจจริง
วิธีการทำ Crowd Funding คือ
ผู้ระดมทุนจะต้องเริ่มต้นจากการนำเสนอสินค้าของตนในรูปแบบที่น่าสนใจ พร้อม VCD
แนะนำผลิตภัณฑ์ ซึ่งคุณอนุรักษ์ เจ้าของบริษัท เอสเธทิค สตูดิโอ ได้นำเสนอโคมไฟ
LED ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ทำจากแผ่นไม้ขนาดบางเพียง 3.5
มิลลิเมตร ให้กลายเป็นโคมไฟ LED 3 มิติ
ซึ่งสามารถระดมทุนได้ถึง 47,636 เหรียญสหรัฐ ภายใน 1 เดือน
โดยมีผู้สนใจในผลิตภัณฑ์ถึง 416 ราย
ผู้ประกอบการรายนี้วิเคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกที่เปลี่ยนไปออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่โดยใช้
Long
Tail Business Model ซึ่งเป็นธุรกิจที่เน้นการขายสินค้าประเภทเฉพาะ(Niche)
เพียงไม่กี่ชนิดในจำนวนไม่มาก แต่รวมมูลค่าแล้วกลับได้มหาศาล
รูปแบบธุรกิจแบบใหม่นี้มีข้อดีหลายประการคือ 1)ต้นทุนสินค้าคงคลังต่ำ
2)สามารถปรับการผลิต/บริการให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
3)เป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงโดยตัดพ่อค้าคนกลาง
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจธุรกิจสร้างสรรค์ไทยอื่นๆ
สามารถ Download
หนังสือ ถอดรหัสธุรกิจ
ซึ่งรวบรวมกรณีศึกษาของธุรกิจสร้างสรรค์ไทยโดยใช้โมเดลธุรกิจใหม่ๆ ได้ที่ www.okmd.or.th ซึ่งกรณีศึกษานี้ทีมที่ปรึกษาสถาบันคีนันแห่งเอเซียได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์กรมหาชน)
ในการดำเนินโครงการ
No comments:
Post a Comment